วิธีจัดการกับบ้านเมื่อฟ้าหลังฝน 
เมื่อฝนเริ่มซาสร่างลงไปแล้ว ถึงเวลาที่ต้องมาสำรวจตรวจตราบ้านว่าจุดไหนพอจะซ่อมแซมได้โดยไม่ต้องพึ่งพา ช่างให้สิ้นเปลืองก็ควรลงมือทำซะ ถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ หรือทำให้เป็นกิจกรรมของครอบครัวไปเสียเลยก็จะช่วยบรรเทาความหนักใจให้กลาย เป็นเรื่องสนุกร่วมกันในบ้านอีกด้วย

ก่อนอื่นต้องจัดการกับผนังก่อน แม้ผนังของแต่ละบ้านอาจจะทำจากวัสดุแตกต่างกันไป แต่เราก็มีวิธีการจัดการกับผนังชื้นๆ แต่ละแบบมาฝาก เริ่มจากผนังที่ทำด้วยไม้ อันนี้ง่ายมาก เพียงนำผ้ามาเช็ดถูคราบสกปรกต่างๆ ออกไป แล้วปล่อยให้แห้งสนิท จากนั้นก็ใช้น้ำยารักษาเนื้อไม้ชโลมลงบนผิวไม้ จำไว้ว่า ห้ามทาน้ำยารักษาเนื้อไม้ขณะที่ผิวผนังยังชื้นอยู่ เพราะจะทำให้น้ำระเหยไม่ออก แล้วเกิดอาการ “ผุฝังใน” ขึ้น

สำหรับผนังก่ออิฐฉาบปูนนั้น ต้องทำความสะอาดคราบสกปรกเช่นกัน แต่ต้องใช้เวลาปล่อยให้แห้งนานกว่า โดยอาจะเลื่อนโต๊ะ ตู้ที่ตั้งชิดผนังออกมา เพื่อให้ระบายความชื้นได้เร็วขึ้น ส่วนผนังยิปซัมบอร์ดนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ การเลาะเอาแผ่นยิปซัมออกจากตัวโครงคราวผนัง ซึ่งถ้าเป็นโครงคร่าวโลหะก็สามารถติดแผ่นใหม่แทนที่ได้เลย แต่ถ้าโครงการเป็นไม้ก็ต้องปล่อยให้ระบายความชื้นออกจนแห้ง แล้วจึงค่อยบุแผ่นใหม่

ต่อมาก็หันมาหาพื้นไม้ปาร์เก้ที่กำลังบวมบ้าง ร่อนบ้าง หลังการเผชิญกับน้ำท่วมมาก สังเกตดูว่าถ้าปาร์เก้เปียกน้ำเล็กน้อย ยังไม่ถึงกับหลุดร่อนปูดโปน ก็เช็ดทำความสะอาดแล้วปล่อยให้แห้ง ไม่กี่วันปาร์เก้อาจเข้ารูปเดิมได้ แล้วก็เช่นเดียวกันกับผนังไม้ คือ ห้ามทาน้ำยารักษาเนื้อไม้ใดๆ ในขณะที่ฟื้นปาร์เก้ยังชื้นอยู่ หากปาร์เก้มีอาการหนัก คือ บวมปูดโน บิดงอ ผุกร่อน เหม็นเน่า ก็อย่าเสียดายเลย เลาะออกมาเป็นดีที่สุด และการจะปูปาร์เก้ใหม่ก็ต้องรอพื้นคอนกรีนแห้งเสียก่อน เพราะไม่งั้นปูไปก็มีโอกาสจะร่อนออกมาอีกจนได้

สุดท้ายมาถึงเรื่องของประตู ประตูที่เป็นไม้หรือวัสดุที่เหมือนไม้ มักจะมีอาการบวมหรือผุพังจากความชื้น วิธีแก้ไข คือ การปล่อยให้แห้ง โดยพยายามเปิดบ้านให้มีอากาศถ่ายเทให้มากที่สุด แล้วจึงค่อยซ่อมแซมพื้นผิวไม้เท่าที่พอทำได้ แต่ถ้าเห็นว่าหมดสภาพแล้วจริงๆ ก็ถือโอกาสเปลี่ยนใหม่เลย โดยอาจจะเลือกประตูที่ทำจากวัสดุอื่นๆ เช่น พีวีซี หรืออะลูมิเนียม อันนี้ก็แล้วแต่งประมาณจะอำนวย สำหรับประตูเหล็กที่ขึ้น มีวีธีจัดการง่ายๆ คือ ขัดสนิมออกให้หมด จากนั้นเช็ดให้แห้ง แล้วจึงทาสีใหม่ทับลงไปเป็นอันเสร็จพิธี

ฟ้าหลังฝนย่อมเป็นฟ้าที่สดใส แม้ว่าเราจะต้องเสียเงิน เสียเวลาเพื่อเยียวยาบ้านไปบ้าง ถือเสียว่าของทุกอย่างย่อมมีอายุขัยของมัน แต่ถ้าเราสามารถเตรียมบ้านให้พร้อมรับมือกับหน้าฝนในปีต่อไปได้ก็จะดี ซึ่งการทำอะไรโดยเฉพาะกับโครงสร้างของบ้านควรปรึกษาสถาปนิก ช่างรับเหมา หรือผู้รู้เสียก่อน จะเป็นการดีที่สุด